Once in a blue moon

LINKS

  • Shopping ของสวยๆ ดีๆ ทางนี้ค่ะ
  • Thai massage learner

8.09.2555

แกง...กำจัดโรค





อร่อยและทรงคุณภาพ



แนะนำ แกงเหลือง นะคะ จัดจ้านดี

ภาพจากกูเกิ้ล

เพราะแกงเหลืองหรือแกงใต้แทบทุกชนิดจะต้องมี
ขมิ้นค่ะ นอกจากอร่อยแล้ว ยังมีประโยชน์มากมายเลยค่ะ
เพราะขมิ้น และสารประกอบ Curcumin ในขมิ้น
รวมๆแล้ว เรียก Curcuminoids
มีคุณสมบัติเป็นสารแอนติออกซิแดนท์ (antioxidant)
สารต่อต้านการอักเสบ ต่อต้านไวรัสและแบคทีเรีย
ซึ่งสามารถทำงานท้าทายโรคมะเร็ง
โรคเบาหวาน โรคข้ออักเสบ โรคเรื้อรังต่างๆ
และที่สำคัญโรคอัลไซเมอร์ ที่ทำให้ขมิ้นโดดเด่นเตะตานักวิจัย
ถึงประสิทธิภาพยอดเยี่ยม
ของขมิ้นนการต่อสู้กับปฏิกิริยาออกซิเดชั่น
ที่เป็นศัตรูร้ายทำลายเซลล์สมองโดยเฉพาะในหน่วยความจำ

ขมิ้น (Turmeric หรือชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Curcuma longa)
พืชตระกูลขิงข่าที่ส่วนรากและเหง้าถูกนำมาใช้ในการปรุงอาหาร
ให้มีสีเหลืองและกลิ่นหอม
สมุนไพรชนิดนี้พบทั่วไปในแถบเอเชีย
ขมิ้นถูกเรียกว่า “ฮาลดิ” (Haldi)
ในภาษาฮินดี (ภาษาของชาวอินเดียทางตอนเหนือ)
ภาษาจีนเรียก “เจียง ฮวง” (jiang huang)
และภาษาทมิฬเรียก “มองจัล” (monjal)
โดยมีประวัติสรรพคุณทางยายาวนานกว่า 5,000 ปี
เริ่มต้นที่สรรพคุณในการรักษาแผล
แก้พิษในเลือดและโรคกระเพาะ
ในตำรายาอายุรเวชของอินเดีย
(India’s Ayurvedic system of medicine)
ชาวฮินดูใช้รักษาอาการเคล็ด ขัด ยอก และบวม
ชาวจีนนำขมิ้นมารักษาอาการปวดท้อง
ส่วนคนไทยเรานอกจากจะนำมาสมานแผล
แล้วยังใช้ ขัดผิว พอกหน้าอีกด้วย

“นักขมิ้นศาสตร์” (Curcuminologists)ชาวอินเดียชื่อบารัท
พบว่าขมิ้นสามารถลดระดับโคเลสเตอรอลในหนูทดลองได้
ต่อมาได้เอาขมิ้นจากในครัวมาโรยลงบนเซลล์มะเร็ง
ปรากฏว่ามันสามารถหยุดการทำงานของ
TNF และ NF Kappa B อย่างเหลือเชื่อ
และต่อมาได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาเรื่องนี้
ที่ขมิ้นสามารถยับยั้งการแตกตัวและ
การแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งหลายชนิด
งานชิ้นนี้ทำให้เกิดจุดหักเหในวงการวิจัย
จากการทดลองเล็กๆโดยใช้ขมิ้น
เป็นองค์ประกอบในการรักษามะเร็งชนิดต่างๆ
การทดลองเริ่มต้นที่ความพยายามจะป้องกันมะเร็งในลำไส้
และโรคอัลไซเมอร์ และโรคอื่นๆ ในการทดลองกับสัตว์ทดลอง
พบว่าขมิ้นสามารถยับยั้งโรคอักเสบต่างๆได้หลายชนิด
เช่น ตับอ่อนอักเสบ (Pancreatitis) โรคข้ออักเสบ (Arthritis)
โรคลำไส้อักเสบ (Inflammatory Bowel disease) อาการลำไส้ใหญ่บวม (Colitis) โรคกระเพาะอักเสบ (Gastritis) อาการแพ้และไข้หวัด

เมื่อเราอายุมากขึ้น ปฏิกิริยาออกซิเดชั่นจะโจมตีเซลล์สมองมากขึ้นเรื่อยๆ
เนื่องจากสมองเป็นอวัยวะที่เปราะบาง
และไวต่อการถูกทำลายจากปฏิกิริยาดังกล่าวมากกว่าส่วนอื่นๆ

สมองจำต้องสร้างยีนที่ชื่อว่า Hemeoxygenase-1( HO-1) ขึ้นมา
เพื่อต่อกรกับออกซิเดชั่น
และยีนตัวนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อสมองถูกกระตุ้นเท่านั้น
และสารกระตุ้นดังกล่าวก็พบมากในขมิ้นนั่นเอง
นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยคาตาเนียในอิตาลี
และนิวยอร์กยืนยันถึงประสิทธิภาพของ
สารสำคัญในขมิ้นที่มีผลต่อการกระตุ้นยีน HO-1
ว่าช่วยยับยั้งไม่ให้เซลล์สมองถูกทำลายโดยออกซิเดนท์ได้เป็นอย่างดี

เมื่อ สมองเกิดสภาวะออกซิเดชั่น
เซลล์สมองจะเกิดการอักเสบและค่อยๆ ตายไปในที่สุด
ส่งผลให้เซลล์เนื้อเยื่อของเส้นประสาทถูกทำลาย
และนำไปสู่โรคความจำเสื่อมหรืออัลไซเมอร์
ขมิ้นจึงไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคดังกล่าวเท่านั้น
แต่ยังบำรุงสมองเราให้เฉียบคมตามอายุที่เพิ่มขึ้นได้อีกด้วย
ในประเทศอินเดีย แหล่งเครื่องเทศสำคัญของโลก
นิยมใช้ขมิ้นเป็นส่วนประกอบอาหาร
มีการทดลองเพื่อค้นหาคุณประโยชน์ของขมิ้น
ที่นอกเหนือไปจากสรรพคุณในการลดความเสี่ยงของ
โรคอัลไซเมอร์อย่างกว้างขวาง
และพบว่าสารแอนตี้ออกซิเดนท์ในขมิ้น
เป็นกุญแจสำคัญในการถนอมอาหาร
นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่เมนูอาหารแต่โบราณหลายๆ จาน
มีขมิ้นเป็นส่วนประกอบ อีกทั้งยังได้สี กลิ่นและรสชาติเป็นของแถม

บรรดา เครื่องเทศต่างๆ นั้นมีสารปฏิชีวนะ
ป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อโรคในอาหาร
ได้มากกว่าเจ็ดสิบห้าเปอร์เซ็นต์
เม็ดสีในเครื่องเทศคือส่วนที่มีสารปฏิชีวนะดังกล่าว
นักวิจัยจากศูนย์โรคอัลไซเมอร์แห่งมหาวิทยาลัยยูซีแอลเอ
ระบุว่า ขมิ้นมีสารสำคัญที่ไม่พบในเครื่องเทศชนิดอื่น
ในการยับยั้งไม่ให้เกิด กลุ่มก้อนโปรตีนเล็กๆ
ในสมองของผู้ป่วยอัลไซเมอร์ที่เรียกว่า Amyloid Plaques
โดยสารในขมิ้นจะเข้าผ่ากลางกลุ่มโปรตีนดังกล่าวไม่ให้รวมตัวกัน

ดร. Sally Frautschy ผู้ช่วยศาสตราจารย์วิชาแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยยูซีแอลเอแนะนำให้รับประทานขมิ้นให้ได้ 200 มิลลิกรัม ต่อครั้ง
อาทิตย์ละสี่ครั้งก็ถือว่าเพียงพอแก่ความต้องการของร่างกาย
ขณะเดียวกัน เรายังพบสารแอนตี้ออกซิเดนท์ในเครื่องเทศชนิดอื่น
อย่างขิงและอบเชย ซึ่งให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับขมิ้น
รวมทั้งช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่เซลล์สมองได้เป็นอย่างดี


แกงส้มมะรุม




















มะรุมไม้กลางบ้านของไทยที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายมาเป็นเวลานาน
นอกจากจะรับประทานอร่อยแล้วยังมีความมหัศจรรย์มากมาย 
ชาวอินเดียยังได้ทำการทดลองและเชื่อว่า
มีคุณสมบัติในการรักษาโรคต่างๆได้ถึง 300 ชนิด 
องค์การสหประชาชาติได้ให้การสนับสนุน
ในการค้นคว้าและวิจัยอย่างกว้างขวาง
โดยเฉพาะในการรักษาโรคขาดอาหาร
และอาการตาบอดซึ่งเกิดขึ้นในเด็กแรกเกิด
จนถึงวัยเจริญเดิบโตในประเทศด้อยพัฒนา
เช่นกลุ่มประเทศในอาฟริกาตอนใต้
และ ประเทศอินเดีย 
กลุ่มองค์การกุศลมากมายได้หันมาให้ความสนใจอย่างจริงจัง
กับพันธุ์ไม้ชนิดนี้ รวมทั้งประเทศไทย 
กลุ่มนักศึกษาแพทย์จำนวน25ท่านจากมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์
ได้ทำการทดลองวิจัยในการที่จะนำมารักษาผู้ป่วยด้วย

ประโยชน์ของมะรุม

๑. ใช้รักษาโรคขาดอาหารในเด็กแรกเกิดถึง
๑๐ ขวบ และลดสถิติการเสียชีวิต พิการ และตาบอด
ได้เป็นอย่างดี

๒. ใช้รักษาผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานให้อยู่
ในภาวะควบคุมได้

๓. รักษาโรคความดันโลหิตสูง

๔. ช่วยเพิ่มและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่
ร่างกาย ทานผลิตผลจากมะรุมในระหว่างตั้งครรภ์
เด็กที่เกิดมาจะไม่ติดเชื้อ HIV นอกจากนี้ถ้ารับประทาน
อย่างน้อยอาทิตย์ละ ๓ ครั้ง ยังช่วยให้คนทั่ว ๆ ไป
สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง

๕. ช่วยรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ให้อยู่ในภาวะ
ควบคุมได้ การรักษาโรคเอดส์ที่ประสบผลสำเร็จ
ในกลุ่มประเทศแอฟริกา

๖. ถ้ารับประทานสม่ำเสมอจะช่วยป้องกัน
ไม่ให้เป็นโรคมะเร็ง แต่ถ้าหากเป็นก็จะช่วยให้การ
รักษาพยาบาลง่ายขึ้น ในบางกรณีสามารถหยุดการ
เจริญเติบโตของโรคร้ายได้ ถ้าใช้ควบคู่ไปกับยาแพทย์
แผนปัจจุบัน หากผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งได้รับการรักษา
ด้วยรังสี การดื่มน้ำมะรุมจะช่วยให้การแพ้รังสี ฟื้นตัว
เร็วขึ้น และมีร่างกายที่แข็งแรง

๗. ช่วยรักษาโรคไขข้ออักเสบ โรคเก๊าท์
โรคกระดูกอักเสบ โรคมะเร็งในกระดูก โรครูมาติซั่ม

๘. รักษาโรคตาเกือบทุกชนิด เช่น โรคตามืด
ตามัวเพราะขาดสารอาหารที่จำเป็น โรคตาต้อ เป็นต้น
หากรับประทานสม่ำเสมอ จะทำให้ตามีสุขภาพที่สมบูรณ์

๙. รักษาโรคลำไส้อักเสบ โรคเกี่ยวกับท้อง
ท้องเสีย ท้องผูก โรคพยาธิในลำไส้

๑๐. รักษาปอดให้แข็งแรง รักษาโรคทางเดิน
ของลมหายใจ และโรคปอดอักเสบ

๑๑. เป็นยาปฏิชีวนะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก พลังจิต และเย็นตาโฟค่ะ









 แทรกมาแถม

 แถมอีกนี้ดด


 
กินเห็ดป้องกันโรคกระดูกพรุน
การที่เรา
ขาดวิตามินดีและแคลเซียม
จะทำให้กระดูกไม่แข็งแรง
ยิ่งอยู่ในวัยสูงอายุ
ก็อาจเพิ่มอัตราความเสี่ยง
ในการเป็นโรคกระดูกพรุนได้
ล่าสุดนักวิจัยพบว่า

การกินอาหาร
ที่มีธาตุทองแดงประจำ
จะช่วยเพิ่มความหนาแน่น
ของกระดูกได้
และการขาดธาตุทองแดง
แม้เพียงเล็กน้อย
ก็จะทำให้อาการกระดูกพรุน
แย่ลงไปอีก

ดังนั้น
การกินอาหารที่มีธาตุทองแดงมาก
เช่น เห็ด ปู กุ้งมังกร หอยนางรม
ลูกพรุน ปลาซาร์ดีน
จึงช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน
และทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น

ข้อมูลจากYenta4



File:Grape-icon.png 

กินองุ่นทั้งเมล็ด
ช่วยชะลอความแก่

วิธีชะลอความชรา
ด้วยการกินผลไม้ที่หาได้ง่ายๆ
เช่น องุ่นและต้องเคี้ยว
เมล็ดองุ่นด้วย
เพราะในเมล็ดองุ่นมีสาร “โอพีซี”
(Oligomeric Proanthocyanidin)
ซึ่ง เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า
วิตามินซีถึง 20 เท่า
และสูงกว่าวิตามินอีถึง 50 เท่า
องุ่นจึงเป็นผลไม้ที่
ช่วยรักษาสุขภาพจากภายใน
ช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวพรรณ
ให้ดูอ่อนกว่าวัย
ช่วยชะลอความชรา
และเป็นสารต้านมะเร็ง
ที่มีประสิทธิภาพสูง
นอกจากนี้
ยังช่วยป้องกันโรคหัวใจ
และโรคที่เกี่ยวกับ
จอประสาทตาอีกด้วย

ข้
อมูลจากYenta4 

เขียนโดย MimeKiku ที่ 20:57
ส่งอีเมลข้อมูลนี้BlogThis!แชร์ไปยัง Xแชร์ไปที่ Facebookแชร์ใน Pinterest
ป้ายกำกับ: Wonderful life

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความใหม่กว่า บทความที่เก่ากว่า หน้าแรก
สมัครสมาชิก: ส่งความคิดเห็น (Atom)
Tweet

categories

  • Wonderful life (19)
  • Wonderful plants (17)
  • ไม่ได่เป็นแค่ดอกหญ้า (14)
  • Seasons Flower Love (3)
  • เก็บตก ข้างทาง (3)

ผู้ติดตาม

Index

  • ►  2014 (1)
    • ►  พฤษภาคม (1)
  • ►  2013 (10)
    • ►  สิงหาคม (3)
    • ►  มิถุนายน (1)
    • ►  พฤษภาคม (6)
  • ▼  2012 (45)
    • ▼  สิงหาคม (14)
      • รวมภาพพระพุทธรูป ของปี2551
      • ผักเหลียง
      • มะรุม
      • ว่านนางคุ้ม
      • กระเจี๊ยบแดง
      • ใบบัวบก
      • พระราชปุชฉาของสมเด็จพระเพทราชา ข้อที่ ๘
      • พระราชปุชฉาของสมเด็จพระเพทราชา ข้อที่ ๗
      • พระราชปุชฉาของสมเด็จพระเพทราชา ข้อที่๖
      • พระราชปุชฉาของสมเด็จพระเพทราชา ข้อที่ ๕
      • พระราชปุชฉาของสมเด็จพระเพทราชา ข้อที่ ๔
      • แกง...กำจัดโรค
      • รักเธอ...เอนไซม์
      • ไปเที่ยวพุทธคยากันมั๊ยคะ(viaโคราชกับสระ...
    • ►  กรกฎาคม (1)
    • ►  กุมภาพันธ์ (30)

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
MimeKiku
ดูโปรไฟล์ทั้งหมดของฉัน
free counters

Relax

บริษัทนี้ดี จำกัด ธีม. รูปภาพธีมโดย latex. ขับเคลื่อนโดย Blogger.