5.29.2556

หญ้าหวาน




หญ้าหวาน หรือ สเตเวีย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Stevia rebaudiana Bertoni อยู่ในวงศ์ Asteraceae เป็นพืชพื้นเมืองทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของปารากวัยในอเมริกาใต้ ความพิเศษของหญ้าหวาน คือ ส่วนของใบให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลถึง 10-15 เท่า แต่ความหวานนี้ไม่ก่อให้เกิดพลังงานแต่อย่างไร (0 แคลอรี/กรัม) นอกจากนี้ยังมีสารสกัดที่เกิดจากหญ้าหวานชื่อว่าสตีวิโอไซด์ (stevioside) เป็นสารที่ให้ความหวานมากกว่า 200-300 เท่าของน้ำตาล ด้วยความพิเศษของหญ้าหวานนี้ หญ้าหวานจึงเป็นพืชที่ได้รับความสนใจทั้งทางด้านอุตสาหกรรม การแพทย์ ยาสมุนไพร และเครื่องดื่ม เป็นต้น
มนุษย์รู้จักนำสารสกัดที่มีรสหวานจากหญ้าหวานมาบริโภคหลายศตวรรษแล้วโดย ชาวพื้นเมืองในประเทศปารากวัย โดยนำหญ้าหวานมาผสมกับเครื่องดื่ม เช่น ชา นอกจากนี้ขาวญี่ปุ่นยังนำสารให้ความมาผสมกับผลิตภัณฑ์อาหาร เช่น ผักดอง ซีอิ๊ว เต้าเจี้ยว เนื้อปลาบด เป็นต้น
หญ้าหวานเริ่มเข้าสู่ประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2550 และปลูกกันมากในภาคเหนือ โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และเชียงราย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาให้มีการใช้สารสตีวิโอไซด์เพื่อการบริโภค หญ้าหวานจึงจัดอยู่ในพืชสมุนไพรอีกชนิดหนึ่ง

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

- หญ้าหวานเป็นพืชล้มลุก ลำต้นกลมและแข็ง
- ใบเดี่ยว รูปหอก ขอบใบหยักคล้ายฟันเลื่อย
- ใบให้สารที่มีรสหวาน
- มีช่อดอกสีขาว

สรรพคุณของหญ้าหวาน

ให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลทรายถึง 200-300เท่าแต่ไม่ทำให้น้ำตาลในเลือดสูง
- ใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวาน และผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
- ช่วยบำรุงตับอ่อน
- ช่วยเพิ่มกำลัง
- สมานแผลทั้งภายในและภายนอก
- ช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมอง
จาก หญ้าหวาน วิกิพีเดีย



วิธีใช้ในครัวเรือน
ใช้ใบแห้งใส่แทนน้ำตาล ไม่ควรใส่มากเพราะมีรสหวานมาก

ปลูก / ดูแล
หญ้า หวานใช้เมล็ดหรือกิ่งชำปลูกก็ได้ การเก็บเมล็ดทำได้ง่าย 

เพียงแต่ทิ้งให้ต้นมีดอกในเดือนตุลาคม 
แล้วเก็บเมล็ดในช่วงเดือนพฤศจิกายน 
 วิธีเก็บใช้ถุงพลาสติครอบดอก เขย่าให้เมล็ดร่วงลงในถุง 
นำเมล็ดมาเพาะในเดือนมีนาคม-เมษายน จะมีอัตราการงอกดี
แต่ โดยทั่วไปจะนิยมตัดกิ่งมาปักชำ 
เนื่องจากสะดวกรวดเร็วกว่า 
ให้เลือกตัดกิ่งที่แข็งแรง ตัดเกือบถึงโคนต้น 
ให้เหลือใบอยู่ 2 คู่ แล้วตัดกิ่งที่จะเอามาชำ
ให้เหลือความยาว 12-15 ซม. 
เอามาชำในถุงหรือกระบะเพาะ เด็ดใบออกเสียก่อน 
เพราะถ้ารดน้ำความหวานจากใบจะลงดิน 
ทำให้กล้าที่ชำไว้ตายได้ พอกิ่งชำแตกรากออกมาได้ 10-14 วัน 
ก็นำไปปลูกในแปลงที่เตรียมไว้
หญ้า หวานเป็นพืชที่ต้องดูแลสูงทั้งการให้น้ำและใส่ปุ๋ยบำรุงดิน 
และเก็บเกี่ยวถี่ สามารถเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 3 ปี 
จึงนิยมปลูกแซมในระหว่างแถวไม้ผล เช่น ลำไย ลิ้นจี่ มะม่วง 
นอกจากนี้ยังปลูกได้ในสวนยาง ในขณะที่ต้นยางยังเล็ก 
หรือยังไม่ได้อายุที่จะกรีดยาง
การ ปลูกช่วงที่เหมาะสมอยู่ในราวเดือนธันวาคม-มกราคม 
ให้พรวนดิน ยกร่องทำแปลงกว้าง 1 เมตร ยาว 15 เมตร 
ปลูกหญ้าหวานได้ 7 แถว ระยะห่างระหว่างแถว
และระหว่างต้น 10 x 10 ซม. 
ใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกไร่ละ 1,000 กก. คลุกเคล้าลงดิน 
เอากิ่งชำมาปลูกในหลุม
หญ้า หวานจะให้ผลดีต้องหมั่นดายหญ้า 
และให้น้ำในช่วงฤดูแล้ง หลังเก็บเกี่ยวควรใส่ปุ๋ยขี้ไก่ 
เพื่อเร่งการแตกใบใหม่ 
ในช่วงเดือนธันวาคมอันเป็นช่วงที่หญ้าหวานให้ผลผลิตต่ำสุด 
มักทำการตัดต้นหญ้าหวานทิ้งให้เหลือแต่ตอในดิน 
เพื่อให้ต้นตอแตกขึ้นมาใหม่ในเดือนมกราคม

เก็บเกี่ยว
หญ้า หวานเริ่มเก็บเกี่ยวใบครั้งแรก หลังจากปลูกได้ 20-25 วัน 

หรือ ในราวปลายเดือนมกราคม 
หลังจากนั้นก็เก็บเกี่ยวไปได้เรื่อย ๆ ปีละ 6-10 ครั้ง 
ขึ้นอยู่กับการดูแล แต่ผลผลิตจะสูงสุดในช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม หลังจากนั้นต้นหญ้าหวานจะเริ่มแก่และออกดอก 
ชะงักการเจริญเติบโต และให้ผลผลิตต่ำสุดในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม
การ เก็บเกี่ยว ให้ฉีดพ่นน้ำล้างฝุ่นออกเสียก่อน 
ค่อยตัดกิ่งเอาไปเก็บใบ ถ้าตัดแล้วเอาไปล้างน้ำ 
ความหวานจะละลายไปกับน้ำ ทำให้คุณภาพต่ำลง

แปรรูบ
นำ กิ่งที่ตัดมารูดใบ แล้วนำใบไปตากแดด 2-3 วัน 

ไม่ควรตากทั้งใบและกิ่งก้าน เพราะจะทำให้ใบไม่สวย 
มีสิ่งเจือปนมาก เกลี่ยใบให้ทั่วระหว่างที่ตาก 
เมื่อแห้งสนิทดีแล้วจึงเก็บในภาชนะบรรจุ
thaihof.org

: Users Online

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น